หน้าหลัก
เกี่ยวกับเรา
ประวัติตำรวจภูธร ภาค 1
วิสัยทัศน์,
พันธกิจ,
อุปสรรค
โครงสร้างองค์กร
ผู้บังคับบัญชา
ข้อมูลและข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์
เอกสารเผยแพร่ทั่วไป
เอกสาร Download
การจัดซื้อจัดจ้าง
คลังคดีความ
แจ้งเบาะแส
ติดต่อสอบถาม
หน้าหลัก
|
เกี่ยวกับเรา
ประวัติตำรวจภูธร ภาค 1
วิสัยทัศน์,
พันธกิจ,
อุปสรรค
โครงสร้างองค์กร
ผู้บังคับบัญชา
|
ข้อมูลและข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์
เอกสารเผยแพร่ทั่วไป
เอกสาร Download
|
การจัดซื้อจัดจ้าง
|
ติดต่อสอบถาม
|
PDPA
21 พ.ค. 05:30 น. พบแล้ว!โจรชิงเงินล้านหน้าแบงก์ผูกคอดับป่าพะเยา
21 พ.ค. 04:45 น. ป.รวบแม่ค้าส้มตำหนีคดียาเสพติด-หนีเข้าเมืองนาน19ปี
21 พ.ค. 04:36 น. เด้ง!3ตร.เรียกรับเงินชาวประมงแลกไม่เอาผิด-ตั้งกก.สอบ
21 พ.ค. 04:34 น. DSIประสานช่วยหญิงไทยในรัสเซียถูกยึดพาสปอร์ต
21 พ.ค. 02:50 น. ผบก.ปทส.ยันจนท.เร่งทำสำนวนคดี”ปารีณา”รุกป่า
หน้าหลัก
/
ผลการค้นหา
ผลการค้นหา
infoGraphic (26 เรื่อง)
ผบ.ตร.เดินหน้าต่อเนื่อง 7 มาตรการคุมเข้มต่างด้าว คอลเซ็นเตอร์ ตั้งจุดตรวจกว่า 5,000 จุด
ผบ.ตร.เดินหน้าต่อเนื่อง 7 มาตรการคุมเข้มต่างด้าว คอลเซ็นเตอร์ ตั้งจุดตรวจกว่า 5,000 จุด สแกนรถกว่า 4 แสนคัน จับกุมต่างด้าว 524 ราย เปิดปฏิบัติทลายเครือข่ายรายใหญ่หลายราย สั่งย้าย 5 ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ย้ำมีแผนรองรับสถานการณ์เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลังถูกกดดัน เพื่อกวาดล้างให้หมดไป . เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำหนด 7 มาตรการคุมเข้มแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างจริงจังให้เห็นผลเป็นรูปธรรม จับต้องได้ มีผลงานออกมาสู่สายตาพี่น้องประชาชน สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล พบว่าตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2568 มีผลการปฏิบัติที่สำคัญตาม 7 นโยบายของ ผบ.ตร. ในทุกด้าน ดังนี้ . ด้านการป้องกัน : มีการตั้งจุดตรวจ 5,099 จุดสำคัญทั่วประเทศ , ตรวจสอบยานพาหนะ 478,282 คัน ทั้งในเส้นทางและรถข้ามชายแดน ตรวจสอบข้อมูลป้ายทะเบียนรถและใบหน้าบุคคล 21,832 ข้อมูล , ตรวจสอบที่พัก สถานีขนส่ง จุดผ่านแดน ช่องทางธรรมชาติ 8,651 ครั้ง . ด้านการปราบปราม : จับกุมต่างด้าวผิดกฎหมาย 524 ราย ปฏิเสธการเข้าเมือง 231 ราย เพิกถอนใบอนุญาต 12 ราย บันทึกข้อมูลเฝ้าระวัง 45,701 ราย , จับกุมยานพาหนะเสี่ยง 76 ราย . จับกุมรายใหญ่สำคัญหลายคดี เช่น ตำรวจสอบสวนกลางจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อม Simbox 2 เครื่อง ยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายรายการที่ จ.สงขลา และจับกุมดาวกองร้อย นายร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ , ตำรวจตระเวนชายแดนจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในพื้นที่ จ.ตาก , ตำรวจนครบาลจับผู้ต้องหาชาวจีน 2 ราย เครือข่ายใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมยึดเงินสดของกลางกว่า 15 ล้านบาท , ตำรวจภูธรภาค 2 จับแก๊งชาวจีนปล่อยเงินกู้ออนไลน์ข้ามชาติในพื้นที่ จ.ชลบุรี , ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับผู้ต้องหาคนจีนและคนไทยพาคนต่างด้าวไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น . มาตรการปกครอง : เอาจริงเอาจังกับข้าราชการตำรวจที่มีข่าวพัวพันอาชญากรรมข้ามชาติ สิ่งผิดกฎหมาย หรือปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการตามมาตรการของ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งย้ายนายตำรวจระดับ ผบก.2 นาย และ ผกก.3 นาย ในพื้นที่ จ.ตาก มาช่วยราชการ พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง . โฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พอใจผลการปฏิบัติในภาพรวม แต่ยังต้องคงเข้ม 7 มาตรการต่อไป สั่งการให้ตรวจสอบทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ที่สำคัญมาตรการทางปกครองที่ออกมาล่าสุด ทำให้สังคมและพี่น้องประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า ผบ.ตร.เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ หากพบว่าตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเกียร์ว่าง พร้อมจะดำเนินการอย่างจริงจัง . นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังสั่งการให้มีการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์คนต่างด้าวผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ หลังที่รัฐบาลมีมาตรการเด็ดขาดตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ต น้ำมันเชื้อเพลิง โดยตำรวจพอจะทราบแนวทางรูปแบบของกลุ่มเหล่านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางกระทำผิด หรือการย้ายฐานกระทำผิด ซึ่งได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดความต่อเนื่อง กวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติให้หมดไป . พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบการกระทำความผิดหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับคนต่างด้าวผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หมายเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กุมภาพันธ์ 17, 2568 09:27:13
งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา
ตำรวจพร้อมเข้มงวดดูแลความปลอดภัยประชาชนโดยเฉพาะศาสนสถานทั่วประเทศ . พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ (รอง ผบก.สปพ.รรท.ผบก.สท.) กล่าวว่า วันมาฆบูชาซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญทางพุทธศาสนา ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งตามประกาศราชกิจจานุเบกษา กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา 5 วัน ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ยกเว้นการขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศนั้น . กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอย้ำเตือนร้านค้าและผู้ประกอบการให้งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งชนิดขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 00.01 - 24.00 น. ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 (ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ) หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 . นอกจากนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ฯ กล่าวว่า ในวันมาฆบูชาจะมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางไปทำบุญ ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดหรือศาสนสถานต่างๆ ทั่วประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการร้านค้า . พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับตำรวจทั่วประเทศดูแลความปลอดภัยตามมาตรการด้านต่างๆ อย่างเข้มงวด โดยสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดกำลังสายตรวจออกตรวจตราตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา และกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เรียบร้อย . พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล หากต้องการความช่วยเหลือ หรือพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ทางสายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
กุมภาพันธ์ 17, 2568 09:05:34
ผบ.ตร. สรุปผลการปฏิบัติ 7 มาตรการเข้มข้น หลังขีดเส้นตาย 7 วัน
ผบ.ตร. สรุปผลการปฏิบัติ 7 มาตรการเข้มข้น หลังขีดเส้นตาย 7 วัน ปฏิบัติการเชิงรุกตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ สกัดกั้นชายแดน ปรับแผนรองรับ กวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ บังคับใช้กฎหมายเด็ดขาดทุกราย . พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการปฏิบัติ 7 มาตรการเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวถูกหลอกลวง ว่า นับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 ได้ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ และขีดเส้นตาย 7 วันให้ทุกหน่วยดำเนินการ โดยมีกรณีพื้นที่ ภ.6 มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง (สภ.แม่สอด สภ.แม่ระมาด สภ.พบพระ) และออกคำสั่งให้ไปช่วยราชการ ศปก.ภ.6 ทันที โดยขาดจาก ต้นสังกัดเดิม . ✅ ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้มีหนังสือสั่งการกำหนด 7 มาตรการเข้มข้น ให้ปฏิบัติอย่างชัดเจน โดยมีผลการปฏิบัติ ห้วงระหว่าง วันที่ 20-31 มกราคม 2568 ดังนี้ 1.มาตรการก่อนคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย : การประสานและสืบสวนหาข่าวร่วมกับหน่วยงานด้านการข่าว สมาชิก INTERPOL และประสานงานช่องทางกงสุล (ฝ่ายตำรวจ/ทูตฝ่ายตำรวจ) เชื่อมโยงข้อมูลคนต่างด้าวไปยังหน่วยตำรวจพื้นที่และจุดตรวจ และประสานงานด้านการสืบสวนหาข่าวสืบสวนจับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด 2. มาตรการ ณ ท่าอากาศยาน และด่านตรวจคนเข้าเมือง(ชายแดน) : ตรวจสอบและบันทึกข้อมูลบุคคลเฝ้าระวัง ปฏิเสธการเข้าเมือง สืบสวนในพื้นที่ท่าอากาศยาน และตรวจคัดกรองคนต่างด้าวชายแดน ตรวจสอบ/จับกุมยานพาหนะบริเวณท่าอากาศยาน โดยประสานกับการท่าอากาศยาน ศุลกากร ตำรวจท่องเที่ยวและตรวจคนเข้าเมือง 3. มาตรการตั้งจุดตรวจเส้นทางการเดินทางจากท่าอากาศยาน/ด่านตรวจคนเข้าเมืองไปยังพื้นที่เฝ้าระวัง : ตั้งจุดตรวจความมั่นคง จุดตรวจ จุดสกัด จุดกวดขันวินัยจราจร โดยใช้รูปแบบใยแมงมุมและเหลื่อมเวลาการปฏิบัติ ประชาสัมพันธ์คนต่างด้าวเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจและ ไม่ประสงค์เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงต่อไป 4. มาตรการตรวจสอบที่พัก พื้นที่ท่องเที่ยว สกัดกั้นพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบที่พัก ช่องทางเข้า-ออกชายแดน ประชาสัมพันธ์พื้นที่ท่องเที่ยว ตลอดจนสกัดกั้นลาดตระเวน ช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามต่าง ๆ 5. มาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเส้นทางและจุดพักคอย : ตรวจสอบปั๊มน้ำมัน จุดพักรถ สถานีขนส่ง สถานที่ที่พักคอย พักค้างแรมชั่วคราว 6.มาตรการเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง/เฝ้าระวังที่จะข้ามไปชายแดน :ตรวจสอบที่พักในแนวชายแดน สืบสวนหาข่าว (IPB) ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถและใบหน้าบุคคล ประสานงานและบูรณาการตรวจร่วมหน่วยความมั่นคง ลาดตระเวน ตรวจร่วมบริเวณชายแดน ท่าข้าม และตรวจสอบยานพาหนะข้ามแดน 7.มาตรการประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ และสืบสวนขยายผล: ประสานงานให้ความช่วยเหลือคนต่างด้าวจากประเทศต้นทางและได้ประชุมหารือความร่วมมือระหว่างประเทศปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีเอกอัครราชทูตประเทศ 16 ประเทศ UNODC และกระทรวงความมั่งคงสาธารณะจีน ในความร่วมในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกมิติ . ????สรุปผลการปฏิบัติดังนี้ ⚠️ ตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์คนต่างด้าว 7,076 ราย ⚠️ จับกุมคนต่างด้าวผิดกฎหมาย 524 ราย ⚠️ ปฏิเสธการเข้าเมือง 92 ราย ⚠️ เพิกถอนการอนุญาต 11 ราย ⚠️ จับกุมยานพาหนะ(เสี่ยง) 72 คัน ⚠️ ตั้งจุดตรวจ จำนวน 2,218 จุด ⚠️ ตรวจสอบยาพาหนะ 286,886 (ในเส้นทาง 268,429 คัน และพาหนะข้ามแดน 18,457 คัน) ⚠️ ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถและใบหน้าบุคคล 20,665 ข้อมูล ⚠️ ตรวจสอบสถานที่พัก สถานีขนส่ง จุดพัก ช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามต่าง ๆ กว่า 2,204 แห่ง จำนวน 3,379 ครั้ง ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าผู้กระทำความผิดมีการเปลี่ยนเส้นทางและพยายามจะขนย้ายอุปกรณ์ เปลี่ยนสถานที่ในการกระทำความผิด จะได้วิเคราะห์ข้อมูลและปรับแผนการปฏิบัติ ตรวจสอบและจับกุมดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาดทุกราย หากพบเจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลย หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพัน ประพฤติมิชอบ จะดำเนินการโดยทันที
กุมภาพันธ์ 07, 2568 09:52:16
ตีแผ่ 5 กลลวงมิจฉาชีพ หลอกทำงานชายแดน สุดท้ายตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์
ตีแผ่ 5 กลลวงมิจฉาชีพ หลอกทำงานชายแดน สุดท้ายตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ . พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณแนวชายแดนอย่างเป็นรูปธรรม โดยในห้วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่ามีพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางผ่านบริเวณแนวชายแดนเพื่อไปทำงานในองค์กรอาชญากรรม ซึ่งมีทั้งผู้ที่เดินทางไปโดยสมัครใจและผู้ที่ถูกหลอกลวง . ???? สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอตีแผ่ 5 กลลวงมิจฉาชีพที่หลอกลวงพี่น้องประชาชนให้ไปทำงานในองค์กรอาชญากรรมบริเวณแนวชายแดน ดังนี้ ⚠️ 1. เงินเดือนสูง ไม่ต้องมีประสบการณ์ - คนร้ายจะเสนอเงินเดือนที่สูงผิดปกติ เช่น 30,000-50,000 บาท สำหรับงานทั่วไป โดยไม่ต้องมีประสบการณ์หรือคุณวุฒิการศึกษา ⚠️ 2. ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า - อ้างว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการ เช่น ค่าตั๋วเดินทาง ค่าวีซ่า หรือค่าประกันงานก่อน พร้อมใช้ข้ออ้างว่าจะได้เงินคืนเมื่อเริ่มงาน ⚠️ 3. รีวิวประสบการณ์ปลอม - ลงรับสมัครงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้บัญชีปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ พร้อมรีวิวประสบการณ์ทำงานปลอม อ้างว่ามาจากผู้ที่เคยทำงาน ⚠️ 4. ทำให้ดูเร่งด่วน - บอกว่าเป็นโอกาสพิเศษที่ต้องตัดสินใจทันที เช่น “รับสมัครด่วน จำนวนจำกัด” พร้อมกดดันเหยื่อให้รีบตัดสินใจโดยไม่มีเวลาคิด ⚠️ 5. หลอกว่าทำงานกาสิโนหรือสถานบันเทิง - อ้างว่าเป็นงานในกาสิโนหรือสถานบันเทิงที่ถูกกฎหมาย แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานในแก๊ง Call Center . สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงให้เดินทางไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะท่านอาจถูกบังคับให้กระทำความผิดและตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ . ????หากท่านพบเบาะแสการหลอกลวงให้เดินทางไปทำงาน หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กุมภาพันธ์ 07, 2568 09:51:33
เลือกตั้ง อบจ. ห้ามจำหน่าย เเจกจ่าย จัดเลี้ยงสุราทุกชนิด
ห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจก จัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร‼️ เนื่องจากเป็นวันเลือกตั้ง อบจ. ✅ . ทั้งนี้ห้าม ⛔️ ตั้งแต่ เวลา 18.00 น.ของวันที่ 31 มกราคม 2568 ถึง 18.00 น.ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 . ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ( พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2566 )
กุมภาพันธ์ 07, 2568 09:19:33
ตำรวจภูธรภาค1 จับวัยรุ่นยิงปืน โพสต์อวดลงโซเชียล พร้อมกำซับผู้ปกครองและญาติให้ดูแลลูกหลาน
กรณีชายยิงปืนในที่สาธารณะที่ปรากฏเป็นข่าวในเฟสบุ๊ค Survive - สายไหมต้องรอด พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ได้สังการให้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานีกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี และ บก.สส.ภ.1 ร่วมกันทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี จนกระทั่ง วันที่ 14 ม.ค.68 ได้ร่วมกันทำการสืบสวนจนทราบผู้ก่อเหตุ คือ นายพลพลฯ อายุ 18 ปี จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดปทุมธานี และ ทำการจับ กุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบว่า "มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน" จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และ รับว่า อาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุเป็น อาวุธปืนลูกซองยาวไม่มียี่ห้อ ขนาดเบอร์ 12 ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน ซึ่งหลังอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกันจิงรับฝากปืนไว้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ไปตรวจค้นที่บ้านดังกล่าวได้ตรวจ ยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 3 นัด และ ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ต่อมา วันที่ 15 ม.ค.68 ได้เชิญผู้ปกครองและญาติของนายพลพลฯ ผู้ต้องหา เข้ามาพูดคุย ตักเตือน ชี้แจงข้อกฎหมายและขั้นตอนการดำเนินการคดีให้ทราบรวมถึงกำชับการดูแลอบรมบุตรหลาน ให้ประพฤติปฏิบัติตนตามกฎหมาย
มกราคม 21, 2568 10:11:18
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน 5 ภัยออนไลน์ วายร้ายทำลายเด็ก ที่ผู้ปกครองต้องตรวจสอบ ก่อนจะสายเกินไป
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ประกอบกับวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 ที่จะมาถึงนี้ เป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ . สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนภัยพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลานอยู่ในความดูแล ให้หมั่นตรวจสอบ และระมัดระวังบุตรหลานของท่าน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของภัยออนไลน์ ที่มีเป้าหมายหลักเป็นเด็กและเยาวชน ดังต่อไปนี้ . 1. การล่อลวงออนไลน์ - คนร้ายสร้างความไว้วางใจกับเด็ก ผ่านเกมหรือสื่อสังคมออนไลน์ แล้วพยายามนัดพบตัวจริง เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ 2. การหลอกถ่ายคลิปลามก - คนร้ายหลอกล่อเด็กให้ถ่ายภาพหรือคลิปลามกส่งให้กับคนร้าย จากนั้นนำภาพหรือคลิปลามกไปขาย หรือนำมาแบล็กเมล์ เรียกเอาเงินจากผู้ปกครอง 3. การกลั่นแกล้งทางออนไลน์ - การที่เด็กถูกกลั่นแกล้งในสื่อสังคมออนไลน์ จากการโพสต์ข้อความหรือรูปภาพที่ทำให้เสียหาย 4. การหลอกลวงซื้อขายสินค้า - คนร้ายหลอกลวงให้เด็กโอนเงินซื้อสินค้า ผ่านเกมหรือสื่อสังคมออนไลน์ แล้วไม่ส่งของให้ 5. การเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสม - การที่เด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น ความรุนแรง ภาพลามก การพนันออนไลน์ ซึ่งมักจะเกิดจากการคลิกโฆษณา หรือการค้นหาโดยไม่ตั้งใจ . สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้พ่อแม่ และผู้ปกครอง ติดตามพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของบุตรหลานของท่านอยู่เสมอ และเปิดใช้งานเครื่องมือในการกรองเนื้อหาสำหรับเด็กในแอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงการให้ความรู้กับเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อให้รู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อ . และสุดท้าย หากบุตรหลานของท่านตกเป็นเหยื่อ หรือได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ สายด่วน 1441 ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง
มกราคม 13, 2568 12:25:28
พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ห้วงเทศกาลคริสต์มาสและวันหยุดยาวปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 17-23 ธันวาคม 2567 (7 วัน)
วันที่ 24 ธ.ค. 2567 เวลา 10.00 น.
ธันวาคม 25, 2567 10:48:43
"ตำรวจภูธรภาค 1" ออกมาตรการเข้มดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่
รับฝากบ้านกับตำรวจ ในโครงการร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0 ) เริ่ม 21 ธ.ค.67 - 2 ม.ค.68
ธันวาคม 23, 2567 12:35:03
"พิทักษ์ 1" ออกมาตรการเข้มดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการตำรวจทั่วประเทศ กำชับป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม เทศกาลคริสต์มาส - ปีใหม่ 2568
ธันวาคม 23, 2567 12:29:52
หน้าแรก
1
2
3
ถัดไป
หน้าสุดท้าย
ตำรวจภูธรภาค 1