ผลการค้นหา
infoGraphic (37 เรื่อง)
3 ขั้นตอน เก็บหลักฐานเพื่อแจ้งความ เอาผิดมิจฯ หลอกลวงทาง Facebook . สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำวิธีเก็บ URL เฟซบุ๊กมิจฉาชีพ ให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี . พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.)เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ซึ่งจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์พบว่า มิจฉาชีพนิยมใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางหลักในการก่อเหตุ . เพื่อให้ประชาชนสามารถเก็บข้อมูลพยานหลักฐานเกี่ยวกับบัญชีเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพ ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ในการแจ้งความดำเนินคดีได้ . สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอแนะนำ วิธีการเก็บ URL และข้อมูลบัญชีเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพ ดังนี้ ???? กรณีใช้งานผ่านเว็บไซต์ (คอมพิวเตอร์) 1. ให้เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของมิจฉาชีพ 2. คลิกที่ URL ซึ่งอยู่ด้านบนของเบราว์เซอร์ 3. คัดลอกหรือบันทึกภาพหน้าจอ URL และหน้าโปรไฟล์ ????กรณีใช้งานผ่าน แอปพลิเคชันมือถือ 1. ให้เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของมิจฉาชีพ 2. กดที่ปุ่มสัญลักษณ์ “…” 3. เลื่อนลงไปด้านล่างสุด แล้วคัดลอกหรือบันทึกภาพหน้าจอ URL . เพียงเท่านี้ พี่น้องประชาชนก็จะสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบในการแจ้งความออนไลน์ หรือแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ . ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงหรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th หรือโทร สายด่วน 1441 และ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กันยายน 10, 2568 00:13:49
3 ขั้นตอน เก็บหลักฐานเพื่อแจ้งความ เอาผิดมิจฯ หลอกลวงทาง Facebook  . สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำวิธีเก็บ URL เฟซบุ๊กมิจฉาชีพ ให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี . พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.)เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ซึ่งจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์พบว่า มิจฉาชีพนิยมใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางหลักในการก่อเหตุ . เพื่อให้ประชาชนสามารถเก็บข้อมูลพยานหลักฐานเกี่ยวกับบัญชีเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพ ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ในการแจ้งความดำเนินคดีได้ . สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอแนะนำ วิธีการเก็บ URL และข้อมูลบัญชีเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพ ดังนี้ ???? กรณีใช้งานผ่านเว็บไซต์ (คอมพิวเตอร์) 1. ให้เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของมิจฉาชีพ 2. คลิกที่ URL ซึ่งอยู่ด้านบนของเบราว์เซอร์ 3. คัดลอกหรือบันทึกภาพหน้าจอ URL และหน้าโปรไฟล์ ????กรณีใช้งานผ่าน แอปพลิเคชันมือถือ 1. ให้เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของมิจฉาชีพ 2. กดที่ปุ่มสัญลักษณ์ “…” 3. เลื่อนลงไปด้านล่างสุด แล้วคัดลอกหรือบันทึกภาพหน้าจอ URL . เพียงเท่านี้ พี่น้องประชาชนก็จะสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบในการแจ้งความออนไลน์ หรือแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ . ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงหรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th หรือโทร สายด่วน 1441 และ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กันยายน 10, 2568 00:13:13
รู้หรือไม่ หากปฏิเสธการเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ กฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า “เมาแล้วขับ” ”เมาขับ“ อันตรายถึงชีวิต ผิดกฎหมาย อาจต้องโทษสูงสุด จำคุก 10 ปี ???? ????️ เช็กเลย ปริมาณ ”แอลกอฮอล์“ แค่ไหน = เมาแล้วขับ ▪️ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัม % ( สำหรับบุคคลทั่วไป ) ▪️ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัม % ( สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือ มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว ) . ????กฎหมายเกี่ยวกับเมาแล้วขับ ขับขี่ขณะดื่ม - เมาสุรา เมาแล้วขับ - กระทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับ 5,000 - 20,000 บาท เมาแล้วขับ - หากทำผิดซ้ำ ภายใน 2 ปี นับแต่กระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 - 100,000 บาท ( ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ) เมาแล้วขับ - หากทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต โทษสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ . ❗️ทั้งนี้หากต่อสู้ ขัดขวางเจ้าหน้าที่ ❗️ จะเข้าข่ายความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ( ป.อาญา ม.138 ) "เมาไม่ขับ“ ด้วยความห่วงใยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กันยายน 09, 2568 23:47:03
????ผบ.ตร.กำชับเด็ดขาด สั่งการตำรวจทุกหน่วย กวดขันสถานบริการ สถานประกอบการ (คล้ายกับสถานบริการ) . 1.ใช้มาตรการป้องกัน ปราบปราม บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสถานบริการ ยาเสพติด ความผิดเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน หากพบว่าผิดเงื่อนไข ฝ่าฝืนกฎหมาย ให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ที่มี ผบช.น. เป็น “พนักงานเจ้าหน้าที่” 2.ตำรวจปฏิบัติงานร่วมกันกับฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาท หน้าที่ และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล 3.ประกอบกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจ ‘กองปราบปราม และ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด’ ตรวจสอบสถานบริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกมิติ มีตำรวจท่องเที่ยว และ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองร่วมสนับสนุน ประสานฝ่ายปกครอง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในการตรวจสอบพื้นที่ 4.เปิดช่องทางการร้องเรียน พร้อมแสวงหาความร่วมมือภาคประชาชนในการแจ้งข้อมูล เบาะแส แจ้งเบาะแส สายด่วน 1599 / ระบบ Jcoms ( จเรตำรวจ ) โดยให้จเรตำรวจควบคุมและติดตามเรื่อง 5. ประชาสัมพันธ์ ประชุมผู้ประกอบการร่วมกับ มท. พม. สธ. ป.ป.ส. สรรพสามิต ปอท. เพื่อให้เข้าใจและทราบถึงนโยบายรัฐบาล ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรวบรวมพยานหลักฐานและการปฏิบัติ . ???? “หากพบพื้นที่ใด ปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวดกวดขันจะดำเนินการทางอาญา วินัยและปกครองทันที โดยจะพิจารณาข้อบกพร่องทุกระดับชั้นตั้งแต่ ผบช. ผบก. ผกก. หน.สน./สภ.”
กันยายน 09, 2568 23:17:53
ข้อแนะนำประชาชนในช่วงสถานการณ์ชายแดน #ไทยกัมพูชา ????สิ่งที่ควรทำ ( Do ) 1.ให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างรอบด้าน รับข้อมูลจากหลายแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เช่น สื่อภาครัฐ, สำนักข่าวอิสระ, นักวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือ 2.แสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์อย่างสุภาพ เหมาะสม โดยเคารพความเห็นต่าง และคำนึงถึงหลักกฎหมาย และมนุษยธรรม 3. หากพบบุคคล สิ่งของต้องสงสัย ให้แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ได้ที่ 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ????สิ่งที่ไม่ควรทำ ( Don't ) 1.ไม่โพสต์ ไม่แชร์ ข้อมูลที่เป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง ปลุกปั่นให้แตกความสามัคคี หรือ สร้างความตื่นตระหนก 2.ไม่หลงเชื่อการเปิดรับบริจาคที่อ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน 3.ไม่ยุยงให้เกิดความรุนแรง ความเกลียดชัง เหยียดเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ๆ ก็ตาม ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ #พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง #พิทักษ์สันติราษฎร์ #TeamThailand #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #Royalthaipolice
สิงหาคม 01, 2568 15:30:28
???? 9 หน้าที่ ผู้ชุมนุม ???? 1.ไม่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุมหรือทําให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินที่พึงคาดหมายได้ว่าเป็นไปตามเหตุอันควร 2. ไม่ปิดบังหรืออําพรางตนโดยจงใจมิให้มีการระบุตัวบุคคลได้ถูกต้อง เว้นแต่เป็นการแต่งกายตามปกติประเพณี 3. ไม่พาอาวุธ ดอกไม้เพลิง สิ่งเทียมอาวุธปืน หรือสิ่งที่อาจนํามาใช้ได้อย่างอาวุธ เข้าไปในที่ชุมนุมไม่ว่าจะได้รับอนุญาตให้มีสิ่งนั้นติดตัวหรือไม่ 4. ไม่บุกรุกหรือทําให้เสียหาย ทําลาย หรือทําด้วยประการใด ๆ ให้ใช้การไม่ได้ตามปกติ ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น 5. ไม่ทําให้ผู้อื่นกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน หรือเสรีภาพ 6. ไม่ใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้ายผู้เข้าร่วมชุมนุมหรือผู้อื่น 7. ไม่ขัดขวางหรือกระทําการใด ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะในการคุ้มครองความสะดวกของประชาชนในการใช้ที่สาธารณะ และการดูแลการชุมนุมสาธารณะนั้น 8. ไม่เดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึงเวลา 06.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ 9. ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคําสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ที่มา : มาตรา 16 พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ หน้าที่ของผู้ชุมนุมในการชุมนุมสาธารณะ พึงปฏิบัติเพื่อร่วมกันบริหารจัดการการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น แจ้งเหตุฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่โทร.191 ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ #การชุมนุมสาธารณะ #สํานักงานตํารวจแห่งชาติ #Royalthaipolice
กรกฎาคม 01, 2568 12:50:32
ระวังกับดัก‼️ กลลวงมิจฯ ลวงทำภารกิจหารายได้เสริม ทึ่แท้กลับหลอกจนหมดตัว ⚠️อย่าหลงเชื่อ! ขบวนการหลอกทำภารกิจออนไลน์ลวงให้โอนเงิน โดยมิจฉาชีพวางแผนหลอกเหยื่ออย่างเป็นระบบ ตั้งแต่สร้างแชตปลอม ดึงเข้ากลุ่มที่มีหน้าม้า จนเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยอ้างว่า “กำลังจะได้เงินก้อนใหญ่ 7 ขั้นตอนหลอกให้ทำภารกิจ หลอกโอนเงิน 1.ล่อเหยื่อด้วยโฆษณา มีการยิงแอด โพสต์ปลอม แล้วทักแชตตรง 2.สร้างฉากลวงในกลุ่มแชต มีหน้าม้าปั้นสถานการณ์ให้ดูน่าเชื่อถือ 3.หลอกให้ทำภารกิจง่ายๆ ดูคลิป กดไลก์ รีวิวสินค้า 4.ปั้นรายได้ปลอมให้เห็น มีเงินรอในระบบแต่ยังถอนออกมาไม่ได้ 5.บีบให้โอนซ้ำเพื่อปลดล็อก อ้างขั้นตอนผิดต้องโอนเพิ่ม 6.ใช้จิตวิทยากลุ่มกดดัน หน้าม้าหลอกว่าเคยได้เงิน เพื่อให้เหยื่อทำตาม 7.หลอกซ้ำด้วยความกลัว-สงสาร ข่มขู่ทางกฎหมายหรือขอความเห็นใจให้โอนอีก . ที่มา : ตำรวจไซเบอร์ แจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th ☎️หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่สายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง
พฤษภาคม 16, 2568 10:45:56
หน้าแรก  1  2  3  4  ถัดไป  หน้าสุดท้าย